ผมเชื่อมั่นว่าทุกคน มีความฝันอยู่ลึกๆในใจว่า
อยากมีกิจการของตนเองสักอย่างไว้คอยเก็บดอกผลทุกๆเดือน
เเต่น่าเสียดายที่..ผู้คนจำนวนมาก มักมอง ธุรกิจ หรือ มองทรัพย์สิน เป็นเพียง รูปธรรมที่จับต้องได้เท่านั้น เช่น ตึก ที่ดิน บ้าน รถยนต์
..
สำหรับ นักธุรกิจ แล้ว สินทรัพย์ ที่ไม่ก่อเกิดประโยชน์ นี้ ไม่ใช่ ทรัพย์สิน
แต่ ทรัพย์สินคือ
สิ่งใดก็ตามที่สามารถ ออกดอกออกผล สร้างรายได้ ให้แก่พวกเขาได้
เช่นรถเช่า , บ้านเช่า, ห้องเช่า, โรงแรม, ม่านรูด , แบรนด์, ลิขสิทธิ์, และ แฟรนด์ไชส์
แต่เพื่อนๆครับ
การลงทุนในธุรกิจเหล่านี้ จำเป็นต้องใช้เงินทุน จำนวนมาก และมีความเสี่ยงสูง เหมาะสำหรับเศรษฐี มีอันจะเกินกิน
มีมรดก เพื่อใช้ในการลงทุน สร้างอพาร์ตเม้นท์ โรงแรม โรงแรมม่านรูด หรือ ห้องเช่า
.เพื่อคอยเก็บเกี่ยว หลายคนอาจประสบความสำเร็จ แต่มี หลายคนอีกเช่นกัน ต้องประสบกับภาวะขาดทุน จากการลงทุน หลายคนต้องตกเป็นหนี้จากการกู้ยืมเพื่อนำเงินมาลงทุนเป็นจำนวนมาก
..
ด้วยความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อย ที่เข้าใจว่า ทรัพย์สิน จะต้องเป็นเพียง รูปธรรมที่จับต้องได้ต่างๆเหล่านี้เท่านั้น
สำหรับผู้ที่มีศักยภาพมีทุนมาก เขาย่อม สามารถ ทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้ !!!!
แต่สำหรับคนธรรมดามนุษย์เงินเดือนหล่ะ ค่าแรงวันละ 300-500บ การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือ การสร้างทรัพยสิน เหล่านี้ แทบจะเป็นเพียงความฝันลมๆแร้งๆ ความฝันหนึ่งในชีวิตเท่านั้นเอง
ความเข้าใจผิด หรือ ความไม่รู้นี้ ทำให้หลายคนพลาดโอกาสดีๆที่อยู่ใกล้ตัว
.ไปอย่างน่าเสียดาย
แต่มี ธุรกิจหนึ่ง ที่น่าสนใจ ธุรกิจที่เปิดโอกาสให้คนธรรมดามีทุนน้อย สามารถสร้างสินทรัพย์ ที่สามารถให้ดอกให้ผลไปยังชั่วลูกหลาน นั่นคือ ธุรกิจเครือข่าย ที่ ทุกท่านกำลังสร้างขึ้นมานั่นเอง
ถ้าเพื่อนๆ ลองเปลี่ยนมุมมองจาก คำว่า สมาชิก หรือ ดาวน์ไลน์ มาเป็น แฟรนไชส์ ของเพื่อนๆที่อยู่ใน ทำเลต่างๆสาขาต่างๆ หรือ เป็นจำนวนห้องพักให้เช่า เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น
คราวนี้
..เรามาลองเปรียบเทียบ โดยกำหนด เงินลงทุน ในการจำนวนสร้างสาขาแฟรนไชส์ หรือ จำนวนห้องเช่ากัน ภายใต้ ระยะเวลาเดียวกัน ดูซิ ผลจะเป็นอย่างไร
ตัวอย่าง ในการซื้อลิขสิทธ์เเฟรนไชส์ อื่นๆ
 |
ถ้าเพื่อนๆต้องการลงทุน ซื้อแฟรนไชส์กับ บริษัทชื่อดังต่างๆ
เช่น ซื้อแฟรนไชส์ อย่าง 7/11 หรือ สตาร์บัค แมคโดนัล ซึ่งอาจจะต้องใช้เงินทุน ถึง 3-5 ล้านบาท
หรือลงทุน สร้างอพาร์ทเมนท์ ให้เช่า ขนาด 20 ห้อง เเต่การลงทุนเเบบนี้เพื่อนๆไม่มีสิทธิ์ที่จะ ขายสิทธิ์ นี้ให้เเก่ผู้อื่น |
โดยเปรียบเทียบผลตอบแทน รายได้จาก การสร้างเครือข่าย ตัวอย่างบริษัท กิฟฟารีน ดังนี้
ตัวอย่างในการลงทุนสร้างธุรกิจของคุณโดย ให้บริษัท กิฟฟารีน เป็น partner ผลิตสินค้าและเเบรนด์ให้แก่คุณ โดย
ตำแหน่งพาราไดซ์ ธุรกิจของบริษัท ใช้เวลา ในการขึ้นตำแหน่งโดยเฉลี่ย 1-3 ปี จำนวนแฟรนไชส์ที่แข็งแรง (โกลด์สตาร์ 20 สายงาน) เงินลงทุน (180 บาท )
ตัวอย่างในการลงทุนทำธุรกิจห้องเช่า
โดยกำหนดในเงื่อนไขเดียวกัน คือ เงินลงที่คุณต้องการใช้ในการสร้างห้องเช่า20 ห้อง เป็นเงิน 5 ล้านบาท
( 5 ล้านบาท ทำห้องเช่า 20 ห้องจะได้ไหมเนี๊ยะ)
คุณจะต้องกู้เงิน จากธนาคารมาลงทุน เป็นเงิน 5 ล้านบาท MLR=7.5% (ดอกเบี้ย) ต่อปี โดยใช้ระยะเวลาผ่อนชำระคืนที่ 3 ปี (เทียบกับอายุงานการสร้าง 20 โกลด์ในกิฟฟารีน)
ดังนั้น
ในการลงทุนทำธุรกิจห้องเช่า
คุณจะต้องส่งดอก ธนาคาร
ดังนี้ ถ้า 3 ปีต้องส่ง bank เดือนละ 155,531.09 บาท
กู้ 3 ปี ต้องจ่ายดอก 599,119 รวมต้นและดอก 5,599,119 บาท
เเต่คุณจะได้ รายรับจากค่าเช่าห้องแต่ละห้องตก ห้องละ 2,000 ต่างจังหวัด หรือ 4,000 บาท/เดือน
ใน กรุงเทพ ดังนั้น เมื่อคิดรายรับเฉลี่ย ต่อห้อง ที่ 3,000 บาท
โดยกำหนดว่า คุณได้ซื้ออพาร์ทเม้น ห้องเช่า 20 ห้อง สำเร็จรูป เปิดเช่าได้ทันที และมีคนเช่าเต็มทุกห้อง ดังนั้นคุณจะมีรายได้จากห้องเช่า ดังนี้
20ห้องx3,000บาท = 60,000 บาทต่อเดือน แต่ คุณต้อง ผ่อนชำระเงินกู้ ธนาคาร เดือนละ 155,531.09 บาท
ดังนั้น ใน 3 ปีแรกของการทำห้องเช่า คุณจะไม่มีรายได้ พร้อมเป็นหนี้เพราะไม่มีรายได้เพียงพอใหนการผ่อนชำละ และเสียดอกเบี้ยไปไม่น้อยกว่า 6 แสนบาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการดูแลในแต่ละเดือน ไม่รวมความเสี่ยงในการปรับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว
กรณีคุณขยายเวลาในการผ่อนชำระเป็น 5 ปี คุณต้องจ่ายดอกเบี้ย 1,011,385 บาท รวมต้นและดอก 6,011,385 บาท โดยในเวลา 5 ปี ส่ง bank เดือนละ 100,189.74 บาท
เห็นตัวเลขแล้วน่าตกใจนะครับ ข้อมูลนี้ ผมไม่ได้ยกมาลอยๆยกหรือตัวอย่างมามั่วๆ คุณสามารถหาข้อมูลอ้างอิงดูได้จาก ราคาตลาด และ ธนาคาร
เมื่อเทียบปัจจัย ต่างๆแล้ว คุณจะพบว่า ขาดทุนครับ รายรับที่ได้ไม่พอกับรายจ่าย
นอกจากนี้ ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายในการดูแลบำรุงรักษา อีกด้วย
ทีนี้มาดูธุรกิจเครือข่าย ตัวอย่าง บริษัท กิฟฟารีน บริษัทธุรกิจเครื่อข่ายอันดับ 1 ของคนไทย
ตำแหน่งพาราไดซ์ ในบริษัท กิฟฟารีน ใช้เวลา ในการขึ้นตำแหน่งโดยเฉลี่ย 2-3 ปี ด้วยจำนวนแฟรนไชส์ที่แข็งแรง (โกลด์สตาร์ 20 สายงาน ) โกลด์สตาร์หมายถึง ผู้ที่มีลูกค้าประมาณ 30-40 คน อุปมาเป็น ห้องเช่าหนึ่งห้อง
ยกตัวอย่าง ในเวลา 2-3ปี ในตำแหน่งนี้ คุณสามารถ เปลี่ยนลูกค้าผู้บริโภคมาเป็นที่โกลด์สตาร์ 10สายงานเป็นอย่างต่ำ ... ตามเงื่อนไขของบริษัท
และคุณจะมีรายได้จากยอดกลุ่มของโกลด์สตาร์ เท่ากับ 10% เมื่อคุณมี 10 โกดล์สตาร์
ถ้าโกลด์สตาร์ ที่ดูแลกลุ่มลูกค้า30-40ของเขา มี ยอดบริโภคในแต่ละเดือน 45K
คุณสามารถมีรายได้เดือนละ 45,000PVx 10% = 4,500 บาทต่อสายงาน x10
นั่นคือคุณมีรายได้อย่างต่ำ 45,000 บาท/ต่อเดือน คือทั้งนี้ยังไม่รวมโบนัส เงินเดือนพิเศษอีกเดือนละ 9,000บาทต่อเดือน
แต่ถ้าคุณมีครบ 20 สายงานตามแผนของบริษัท คุณจะมีรายได้ถึง 90,000 บาท/ต่อเดือนทั้งนี้ไม่รวม ค่าลิขสิทธ์แฟรนไชส์ที่คุณจะได้รับ จากชั้นหลาน โกลด์สตาร์ อีก 6% ตลอดสาย และเงินโบนัสพิเศษอีกมากมายให้คุณอีกด้วย
เเล้วจะทำได้ไหมเนี๊ยะ สายงานมากมายขนาดนี้
มาครับมาดูกันต่อ มาดูกันที่ต้นเหตุเลย
ความเข้าใจผิด สิ่งแรกที่ผู้คนส่วนใหญ่ มัก คิดถึงเป็นอันดับแรกคือ วิตก เกี่ยวกับ การขายสินค้าจะไปขายให้ใคร และ วิตกเกี่ยวกับ การหาสมาชิก และเข้าใจว่าการทำธุรกิจเครื่อข่าย คือการที่พวกเขาจะต้องหาสมาชิกให้มากทีสุด
บางคนอาจล่ารายชื่อคนรู้จัก และจะต้องคอยแนะนำสินค้าผลิตภัณท์ตามบ้านนั้นทีบ้านนี้ที หรือ พยามยามที่จะขายให้ได้โดยไม่สนใจ ว่าคนเหล่านั้นมีความต้องการสิ่งเหล่านั้นอยู่ก่อนหรือไม่
ครับ เพื่อนๆหลายคน สมัครแล้วรีบหาสมาชิกเลย จริงๆแล้วอัพไลน์ชอบนะ ยิ่งมีสมาชิกมากมียอดมาก อัพไลน์ก็ได้รายได้มากเช่น กัน แต่สำหรับผมเเล้วผมคิดว่า การรีบหาสมาชิกโดยที่ขาดความรู้ความเข้าใจ นั้นเป็นการเริ่มต้นที่ผิด ผิดตั้งเเต่เริ่ม
ดังนั้น ก่อนจะ หาสมาชิกธุรกิจ ขอให้เข้าใจหลักการพื้นฐานอธิบาย ผู้อื่นได้อย่างท่องแท้เสียก่อนครับ
แต่ถ้ากรณีเพือนของคุณสนใจ เกี่ยวกับ สินค้าของคุณ (Giffarine) อยู่แล้วอันนี้ ดีครับ ชวนสมัครเลย
สาเหตการถูกปฎิเสธ
- ภาพเก่าๆฝังใจ จากการบอกเล่า หรือประสบการณ์ของพวกเขา หลายคนจดจำภาพลักษณ์อันเลวร้าย จากการยัดเยียดสินค้าตามตื้อเพื่อนพ้องญาติพี่น้องให้สมัคร หลายคนถูกหลอกล่อให้สมาชิกของตนซื้อสินค้ากักตุนไว้เป็นจำนวนมาก โดยคำนึงแต่ผลประโยชน์ของตนแต่เพียงถ่ายเดียว โดยไม่ได้คำนึงถึงการขาดสภาพคล่องของสมาชิกของเขาเลย
- มีความเข้าใจและอธิบายเกี่ยวกับธุรกิจของคุณได้ไม่ดีพอ ไม่สามารถสื่อสารให้เขาเข้าใจได้
- อุปนิสัยส่วนตัวของคน(ความขี้เกียจ,ทิฐิอีโก้สูง, ยอมรับแต่ไม่ทำ, คิดแต่ว่าไม่มีเวลา )
- คนส่วนมากเกลียดการขายไม่ชอบการขาย เเละ มัก จะแสดงถึงความไม่ประสีปะสา โดย พยายามใช้ไหวพริบเชาว์ปัญญา ของตนตัดสินในสิ่งที่ตนเองไม่ได้เข้าใจจริงๆ
เรื่องการถูกปฎิเสธ มันเป็นเรื่องธรรมดามาก ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ก็ไม่ใช่ว่าจะ แนะนำชักชวนได้ 100%
จากที่ผมกล่าวมาข้างต้นนี้ คือ ปัญหา และความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำธุรกิจเครือข่าย
เพราะ ในทางธุรกิจนั้น เหมือนการเดินทาง เปรียบเสมือนการเดินเรือ... การเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อย นั้น เหมือนการหันหางเสือผิดองศาเพียงเล็กน้อย ซึ่งหมายถึง การเดินทางถึงจุดหมาย หรือ หายนะ เลยทีเดียว
ทีนี้เราต้องมาทำความเข้าใจให้ถูกต้องกันเสียก่อน
ในการทำธุรกิจเครือข่ายนี้ ก็ เหมือนกับการขาย ธุรกิจแฟร์นไชส์ ของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วไปเช่น
KFC, McDonald และอื่นๆ
. ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าพวกเขาขาย ไก่ ขายเบอร์เกอร์ ขาย อสังหาฯ
แต่แท้จริงแล้วพวกเขาขาย การทำธุรกิจ ขายวิธีการ ขาย know how
เช่นเดียวกันกับเราไมโครแฟรนไชส์ Giffrine สินค้าจริงๆของคุณก็คือ การขายความรู้ในการทำธุรกิจ ดังนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงสูงสุดคือ ความรู้ความเข้าใจของคุณ, ประโยชน์และความอยู่รอดของแฟร์นไชส์ซีของคุณ หรือ สมาชิกธุรกิจของคุณ
ในการเริ่มต้น สำหรับแฟร์นไชส์ซี ที่ซื้อสาขา จากบริษัทเหล่านี้ พวกเขาจะต้อง เข้าอบรม เรียนรู้การทำงาน การดำเนินธุรกิจ เช่นเดียวกัน
ดังนั้น
.. คำถามที่หลายคนถามว่า จะเริ่มต้นอย่างไรก่อน ในการทำธุรกิจไมโครแฟรนไชส์ (กิฟฟารีนออนไลน์) ตอบกันง่ายๆ ตรงๆ คือ เริ่มต้นเรียนรู้จากตัวเองก่อน ทำความเข้าใจการทำธุรกิจอย่างดีแล้วเสียก่อน ก่อนคิดจะขยายสาขา หรือหาสมาชิก นั่นเอง อย่าก้าวกระโดดเป็นอันขาด
เริ่มต้นอย่างไร?
1. ศึกษาคู่มือการทำธุรกิจ ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับสินค้า ด้วยตนเอง เนื่องจากสินค้ามีมากมายหลายชนิด เราก็ซื้อใช้ในสิ่งที่เราจำเป็น และ ศึกษาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับสินค้าเพิ่มเติม
2. แบ่งเวลาว่างในแต่ละวันให้แก่ธุรกิจของคุณ (ทุกธุรกิจต้องการความดูแลเอาใจใส่สม่ำเสมอ)
หลังจากนั้น เมื่อคุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับ ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจเรียบร้อยแล้ว
คุณมีความจำเป็นต้องศึกษา เกี่ยวกับการทำ ตลาด
3ศึกษาการทำตลาด
การศึกษากลยุทธ์ในการทำตลาด นั้นในยุคปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
ง่ายที่สุดคือ การตลาดแบบ offiline
3.1 การทำตลาดแบบ offline
· กำหนด กลุ่มเป้าหมาย เช่น ใครต้องการอะไร ใครชอบอะไร
กลุ่มผู้สนใจสินค้า หรือ ผู้สนใจต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้น
· ใช้ดีแล้วบอกต่อ สินค้าตัวไหน ที่เพื่อนหรือคนรู้จัก ต้องการ ใช้แล้วคุ้มค่าเห็นผล แนะนำเขา เช่น เพื่อนของคุณมีปัญหาเรื่อง ต้องการ เสริมความงาม แนะนำเกี่ยวกับความงาม, เพื่อนของคุณ มีปัญหาเรื่อง สุขภาพ แนะนำอาหารเสริม
เคล็ดลับ: ฟังให้มาก สังเกตุปัญหาของผู้อื่น และแนะนำเฉพาะสิ่งที่เขาต้องการ
· แบ่งปันเรื่องราว ขายธุรกิจ, ขยายสาขา หรือ สมัครสมาชิก
สิ่งสำคัญ คือ คุณสามารถแสดงวิสัยทัศน์ และตอบปัญหา ชี้ให้พวกเขาเข้าใจและเห็นความเป็นไปได้ ในการแสดงวิสัยทัศน์ คุณจะแสดงได้ดีมากน้อยแค่ไหนนั้นอยู่ที่คุณมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจมากน้อยแค่ไหน
เคล็ดลับ: หาความรู้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือต่างๆ ความรู้ในธุรกิจเศรษฐกิจ การเมือง การตลาด และการเข้าฟังการอบรมต่างๆ รักการเรียนรู้ไม่หยุดที่จะเรียนรู้
เเละ เรียนรู้เทคนิคการขายโดยปราศจากการขาย
3.2 การทำตลาดแบบ online
เนื่องจากการตลาดแบบออนไลน์ นี้ค่อนข้างเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทยหลายๆคน การทำตลาดออนไลน์เป็นการตลาดที่มีประสิทธิ์ภาพสูง ต้นทุนในการทำตลาดต่ำ และสามารถทำงานแทนคุณได้ 24 ชั่วโมง/7 วัน พร้อมทั้งสามารถเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจของคุณในอีกหลายๆด้าน
กลยุทธทางการตลาดออนไลน์ สามารถ แก้ปัญหา ความกลัวการขาย สามารถทำการเปลี่ยนตำแหน่ง โดย ผู้สนใจเดินเข้ามาหาคุณ ลูกค้า ติดต่อหาคุณก่อน
ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้ในการทำตลาดแบบออนไลน์ คือ
คุณมีความจำเป็นต้องรู้ว่า อะไรเอาไปใช้อย่างไร? ระบบการตลาดออนไลน์เป็นอย่างไร เว็บไซด์มีหน้าที่อย่างไร?
แบนเนอร์มีหน้าที่อย่างไร? เพิ่มศักยภาพเพิ่มช่องทางรายได้อย่างไรบ้าง? ทำโฆษณาอย่างไร? ทำอย่างไรให้คนเข้าเว็บของคุณ? เข้าเว็บแล้วมีการกระทำใดๆบนเว็บของคุณได้หรือไม่(สั่งซื้อ สมัครสมาชิก) SEO คืออะไร? จดหมายติดตาม เขียนอย่างไร ส่งอย่างไร? และสุดท้ายเรียนรู้ที่จะพยายามมีเว็บไซด์เป็นของตนเอง ถ้าเป็นไปได้
นอกจากนี้ คุณสามารถเริ่มธุรกิจได้ทันที พร้อมเครื่องมือการตลาด ได้ที่นี่คลิ๊ก
4. กำหนดเป้าหมาย วางเเผน และ ลงมือปฏิบัติ
เช่นคุณตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในแต่ละเดือนคุณจะต้องรักษายอดได้ตามที่บริษัทกำหนด คือ 1000 PV ให้ได้ โดย(มาจากการใช้ของคุณเอง+ลูกค้าหรือสมาชิกใหม่ของคุณ) และ ตั้งเป้าไว้ว่าในแต่ละเดือนคุณจะหาลูกค้าใหม่ด้วยตัวคุณเองให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 3 คน และจะสอนเขาให้เข้าใจและทำได้อย่างคุณ ทุกๆเดือน โดยจะคอยสอนเขาให้เข้าใจ และสามารถทำได้อย่างคุณภายใน 3เดือนนับจากวันที่พวกเขาสมัคร
ผลจะเป็นดังนี้
เดือนแรกที่คุณเริ่มออกสู่สนามธุรกิจ หลังจากที่ได้เข้าใจมันดีแล้ว
คุณ มีสมาชิก 3 คน
เดือนที่2 ได้อีก 3 = 6 คน
เดือนที่3 ได้อีก 3 = 9 คน
เดือนที่4 ได้อีก 3 = 12 + สมาชิกของคุณ 3 คนแรก หาสมาชิกให้ได้อีกคนละ 3 = (12+9)= 21
เดือนที่ 5 ได้อีก 3 = (3+21+(สมาชิกของคุณที่ได้ในเดือนที่ 1และ2 สามารถหาสมาชิกใหม่ได้เหมือนคุณ อีกคนละ 3 = 18) = 42
(ที่จำนวนสมาชิก 42 คน นี้ คุณสมารถขึ้นโกลด์สตาร์ 45,000PV ได้อย่างเป็นธรรมชาติ)
เดือนที่ 6 ได้อีก 3 = (3+42+(สมาชิกของคุณที่ได้ในเดือนที่ 1,2และ3 สามารถหาสมาชิกใหม่ได้เหมือนคุณ อีกคนละ 3 = 27 + สมาชิกของคุณ 3 คนแรกสมารถสอนให้สมาชิกของเขาเองทั้งหมด 9 คน ทำธุรกิจเป็น และ หาสมาชิกให้ได้อีกคนละ 3 = 27) รวมสมาชิกทั้งหมดในเดือน ที่ 6 คุณจะมี สมาชิก = (3+42+27+27 = 99 คน)
คุณจะเห็นว่าเพียงแค่ 6 เดือน คุณ สามารถ มีสมาชิก ได้ ถึง 99 คน รายได้ของคุณจะเฉลี่ยอยู่ที่ 12,870 บาท
เห็นภาพแล้วใช่ไหมครับ เพียงเดือนที่ 6 คุณสามารถมีรายได้ ถึง 12,870 ไม่รวมโบนัสพิเศษอีก 9,200 บาท = 20,000++ บาท
เพื่อนๆลองย้อนกับไปเปรียบเทียบ กับการลงทุน ทำอพารต์เม้นให้เช่า 5ปีกับเงินกู้ที่ลงทุนไปนั้น คุณยังไม่ได้ เงินทุนเก่าคืน แถมด้วยหนี้ ยังมีอยู่อีกด้วย
ในขณะที่ธุรกิจไมโครแฟรนไชส์ กิฟฟารีน นี้ เพื่อนๆ สามารถสร้างรายได้อย่างรวดเร็วรายได้มากกว่ามาก เมื่อเทียบในเวลาและปัจจัยเดียวกัน
เพื่อนเห็นความเป็นไปได้แล้วใช่ไหมครับ ผมขอถามเพื่อนๆคำถามง่ายๆว่า
มันคุ้มไหมกับเงินลงทุนเพียง 180 บาท กับเวลาว่างในแต่ละวันที่เพื่อนๆจะลงทุนในการหาความรู้ให้คนเอง เพื่อ สามปีข้างหน้า เพื่อนๆสามารถมีรายได้ต่อเดือนอย่างน้อย 50,000 -100,000 ++ ต่อเดือน มันเป็นไปได้ใช่ไหมหล่ะ? ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ใครมุ่งมันลงมือทำอย่างจริงจังหรือป่าว
คุ้มไหมครับกับเวลาที่เพื่อนๆเหนื่อยเพียง3ปี ที่ใช้เวลาช่วยเพื่อนๆสมาชิกของคุณ รู้จักการทำธุรกิจ รู้จักวางแผนทางการเงิน และสามารถสร้างรายได้ ดังนั้นรายได้ในแต่ละเดือน ที่เพื่อนๆจะได้นี้ มากจากน่ำพักน้ำแรงที่เพื่อนๆสอนพวกเขา: ซึ่งก่อให้เกิดรายได้กลับคืนมาให้คุณชั่วลูกชั่วหลาน รายได้ที่วันนึงคุณเเก่ตัวลง เเต่มันไม่หยุดตามเเรงของคุณ "เงินทองไหลมาตามท่อ"
ดังนั้นสิ่งสำคัญ เราต้องตั้งโจทย์ให้ถูกว่า ทำอย่างไรคนธรรมดาๆทั่วไปจะรู้รอบและสามารถตอบคำถามของเพื่อนๆเขาได้ และเป็นการตอบด้วยสติปัญญาแบบพุทธแท้ ไม่ใช่ตอบแบบคิดเองเออเองตามกิเลสบงการ มิใช่หวังพึงแต่หัวหน้าทีมเพียงไม่กี่คน
กล่าวโดยสรุปที่สุด ถ้าเพื่อนๆพูดในสิ่งที่คนอยากรู้ อธิบายในสิ่งที่คนเชื่อว่าเป็นความจริง พูดในสิ่งที่คนประจักษ์ว่าเป็นทางออกอันสว่างไสว นอกจากจะมีคนฟังแล้ว ยังมีสมัครพรรคพวกช่วยบอกต่อกันไม่รู้จบรู้สิ้นอีกด้วย คุณทำได้แน่ภายใน ไม่เกิน 3 ปี
เมื่อคุณได้อ่านมาถึงตรงนี้ คุณย่อมเป็นผู้เเสวงหาอิสระคนนึงเช่นกัน ดังนั้นเมื่อคุณ คิดว่าคุณพร้อมจะลงทุนในการเดินทางครั้งนี้ สัก 3ปี เพื่ออนาคต ข้างหน้าเเล้ว หล่ะก้อ >>>คลิ๊กที่นี่เพื่อร่วมเดินทางไปพร้อมกับเรา

ลงทะเบียนเพื่อเดินทางไปพร้อมกับเรา
"ไม่มีสูตรความรวย หรือสูตรความสำเร็จใดๆ ในโลกธุรกิจ ที่จะเนรมิตความรวยและความสำเร็จแบบสบายๆ โดยไม่ต้องออกแรงทำอะไรเลย"
แนะแนวการสร้างรายได้ กิฟฟารีน (giffarine) ----กลับไปหน้าเเรก
|